หน้าหลัก > บล็อก > ชวนรู้จัก ระบบรักษาความปลอดภัยอิเล็กทรอนิกส์ ระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) ที่ได้มาตรฐาน

ชวนรู้จัก ระบบรักษาความปลอดภัยอิเล็กทรอนิกส์ ระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) ที่ได้มาตรฐาน

โดย Charoen W

กล้องวงจรปิด

มาตรฐาน IP อีกหนึ่งมาตรฐานการป้องกันฝุ่นและน้ำที่ขาดไม่ได้ในกล้องวงจรปิด

กล้องวงจรปิดหรือ CCTV ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งระบบรักษาความปลอดภัยที่มีความเป็นที่นิยมค่อนข้างสูงมากในประเทศไทยที่ผ่านมา เชื่อได้เลยว่าเราแทบจะสังเกตเห็นกล้องวงจรปิดตามอาคารได้เกือบทุกที่เลยทีเดียว จึงทำให้การเลือกติดตั้งกล้องวงจรปิดในยุคสมัยนี้กลายเป็นเรื่องง่ายไม่ว่าใครก็สามารถเลือกใช้งานกล้องวงจรปิดสำหรับเฝ้าสังเกตการณ์ได้อย่างง่ายดาย แต่เราจะรู้ได้อย่างไร? ว่ากล้องวงจรปิดที่เราเลือกใช้งานนั้นได้รับมาตรฐานการใช้งานจริงๆ วันนี้เราจะขอยกตัวอย่างมาตรฐาน IP มาตรฐานที่เกี่ยวกับการป้องกันฝุ่นและน้ำใน CCTV โดยเฉพาะ ที่จะช่วยให้เรามั่นใจได้ว่ากล้องวงจรปิดที่เราใช้งานนั้นมีประสิทธิภาพที่จะช่วยสร้างความไว้วางใจให้กับผู้ใช้งานได้อย่างแน่นอน

 

ทำความรู้จักกับมาตรฐาน IP

มาตรฐาน IP หรือในชื่อเต็มว่า International Protection Standard ถูกพัฒนาขึ้นโดย IEC หรือในชื่อเต็มว่า International Electrotechnical Commission ถูกจัดเป็นมาตรฐานที่บอกถึงระดับการป้องกันฝุ่นและน้ำของเครื่องจักร (Mechanical Casings) และ อุปกรณ์ไฟฟ้า (Electrical enclosures) หรือสามารถจำกัดความได้ว่ามาตรฐาน IP นี้เปรียบเสมือนตัวกำหนดความสามารถในการป้องกันสิ่งแปลกปลอม ที่อาจจะเข้าไปในอุปกรณ์ Electronic ภายใน การที่กล้องวงจรปิดนั้นมีความจำเป็นที่จะต้องถูกใช้งานภายในหรือภายนอกอาคารตลอดเวลา 24 ชั่วโมงจึงจำเป็นที่จะต้องมีมาตรฐาน IP ดังกล่าวเพื่อที่จะสามารถป้องกันกล้องวงจรปิดจากสิ่งแปลกปลอมภายนอกไม่ให้เข้าไปทำลายวงจรภายในนั่นเอง โดยที่มาตรฐาน IP จะประกอบไปด้วยตัวเลข 2 หลักด้วยกันซึ่งจะได้รับมาจากผลการทดสอบจาก LAB ที่ได้รับมาตรฐานและจะแบ่งตามประเภทการป้องกันสิ่งแปลกปลอมในแต่ละตำแหน่งดังกล่าว ผ่านการเรียงลำดับจากตัวเล็กน้อยไปมาก ยิ่งมีตัวเลขมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งสามารถป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง

 

ตัวอย่างความหมายของระดับตัวเลขมาตรฐาน IP ลำดับที่หนึ่ง

สำหรับตัวเลขหลักที่หนึ่งของมาตรฐาน IP จะหมายถึงขนาดของแข็งที่กล้องวงจรปิดสามารถป้องกันได้ ตัวอย่างเช่น กรวด หรือฝุ่นผงต่างๆ โดยจะสามารถแบ่งระดับความสามารถในการป้องกันของแข็งได้ตั้งแต่ระดับ 0 - 6 ด้วยกันตัวอย่างเช่น

  • ระดับเลข 0 หมายถึง ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้มีการป้องกันใดๆ ต่อกล้องวงจรปิดทั้งสิ้น
  • ระดับเลข 1 หมายถึง สามารถป้องกันการเล็ดลอดของแข็งที่มีขนาดใหญ่กว่า 50 มม. ขึ้นไป ไม่ให้เข้าไปในกล้องวงจรปิดได้
  • ระดับเลข 3 หมายถึง สามารถป้องกันการเล็ดลอดของแข็งที่มีขนาดใหญ่กว่า 2.5 มม. ขึ้นไป ไม่ให้เข้าไปในกล้องวงจรปิดได้
  • ระดับเลข 4 หมายถึง สามารถป้องกันการเล็ดลอดของแข็งที่มีขนาดใหญ่กว่า 1 มม. ขึ้นไป ไม่ให้เข้าไปในกล้องวงจรปิดได้
  • ระดับเลข 5 หมายถึง สามารถป้องกันการเล็ดลอดอนุภาคสิ่งแปลกปลอมขนาดเล็กอย่างเช่นฝุ่นละอองได้ในระดับหนึ่ง ไม่ให้เข้าไปในกล้องวงจรปิดได้
  • ระดับเลข 6 หมายถึง สามารถป้องกันการเล็ดลอดอนุภาคสิ่งแปลกปลอมขนาดเล็กเช่นฝุ่นละอองได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ให้เข้าไปในกล้องวงจรปิดได้

ตัวอย่างความหมายของระดับตัวเลขมาตรฐาน IP ลำดับที่สอง

สำหรับตัวเลขหลักที่สองของมาตรฐาน IP จะหมายถึงประสิทธิภาพในการป้องกันของเหลวที่สามารถแทรกซึมเข้ากล้องวงจรปิดได้ ตัวอย่างเช่น น้ำหรือไอน้ำ โดยจะสามารถแบ่งระดับความสามารถในการป้องกันจากของเหลวได้ตั้งแต่ระดับ 0 - 9k ด้วยกันตัวอย่างเช่น

  • ระดับเลข 0 หมายถึง ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้มีการป้องกันใดๆ ต่อกล้องวงจรปิดทั้งสิ้น
  • ระดับเลข 1 หมายถึง สามารถป้องกันกล้องวงจรปิดจากหยดน้ำที่หยดลงมาในแนวดิ่งเท่านั้น
  • ระดับเลข 2 หมายถึง สามารถป้องกันกล้องวงจรปิดจากหยดน้ำที่หยดลงกระทบทำมุม 15 องศาจากแนวดิ่งได้
  • ระดับเลข 3 หมายถึง สามารถป้องกันกล้องวงจรปิดจากน้ำฝนที่ตกกระทบทำมุม 60 จากแนวดิ่งได้
  • ระดับเลข 4 หมายถึง สามารถป้องกันกล้องวงจรปิดจากน้ำฝนได้รอบทิศทาง
  • ระดับเลข 5 หมายถึง สามารถป้องกันกล้องวงจรปิดจากการฉีดน้ำเข้าโดยตรงได้รอบทิศทาง
  • ระดับเลข 6 หมายถึง สามารถป้องกันกล้องวงจรปิดจากการฉีดน้ำที่มีระดับรุนแรงเข้าโดยตรงได้รอบทิศทาง
  • ระดับเลข 6K หมายถึง สามารถป้องกันกล้องวงจรปิดจากการฉีดแรงดันสูงเข้าโดยตรงได้รอบทิศทาง
  • ระดับเลข 7 หมายถึง สามารถป้องกันกล้องวงจรปิดจากการแทรกซึมของน้ำผ่านการแช่ในน้ำได้ที่ความลึกสูงสุด 1 เมตรเป็นระยะเวลาสูงสุด 30 นาที
  • ระดับเลข 8 หมายถึง สามารถป้องกันกล้องวงจรปิดจากการแทรกซึมของน้ำผ่านการแช่น้ำได้อย่างถาวร
  • ระดับเลข 9K สามารถป้องกันกล้องวงจรปิดจากการฉีดน้ำแรงดันสูงพิเศษที่อุณหภูมิน้ำสูงสุด 80 องศาเซลเซียส เข้าโดยตรงได้รอบทิศทาง

 

เลือกใช้กล้องวงจรปิดที่ได้รับมาตรฐาน IP จากผู้ให้บริการคุณภาพ

อย่างที่เราทราบว่าระดับตัวเลขของมาตรฐาน IP นั้นสามารถบ่งบอกถึงประสิทธิภาพในการป้องกันน้ำและฝุ่นของตัวกล้องวงจรปิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยตัวอย่างมาตรฐาน IP ที่นิยมใช้งานในประเทศไทยนั้นอย่างเช่น IP65 ที่สามารถป้องกันกล้องวงจรปิดจากฝุ่นและการฉีดน้ำได้รอบทิศทาง, IP66 ที่สามารถป้องกันกล้องวงจรปิดจากฝุ่นและการฉีดน้ำแบบรุนแรงได้รอบทิศทาง และ IP67 ที่สามารถกล้องวงจรปิดจากฝุ่นและการแทรกซึมของน้ำผ่านการแช่ในน้ำได้ที่ความลึกสูงสุด 1 เมตรนาน 30 นาที จึงทำให้สำหรับผู้ที่ต้องการเลือกใช้งานกล้องวงจรปิดโดยเฉพาะพื้นที่เปิดกว้างอย่างเช่นตามมุมอาคาร ภายนอกอาคาร ที่จำเป็นต้องโดนแดดโดนฝนตลอดเวลาจึงไม่ควรมองข้ามที่จะเลือกใช้งานกล้องวงจรปิดที่ได้รับมาตรฐาน IP จากผู้ให้บริการคุณภาพไว้ใช้งาน TP-Link เราคืออีกหนึ่งผู้นำด้านบริการระบบเครือข่ายและอุปกรณ์เสริมที่เชื่อถือได้ในระดับโลก มีประสบการณ์ในการให้บริการมาแล้วมากกว่า 27 ปี เราได้ให้ความสำคัญถึงทุกมิติของชีวิตสู่สิ่งที่ดีกว่าโดยเฉพาะระบบรักษาความปลอดภัยของกล้องวงจรปิด CCTV ที่เราคำนึงถึงทุกความปลอดภัยเป็นสำคัญ จึงได้ออกแบบนวัตกรรมกล้องวงจรปิดมากประสิทธิภาพการใช้งาน ที่นอกจากจะใส่ใจในเรื่องความละเอียดคมชัดของกล้องแล้ว ยังพัฒนาศักยภาพของกล้องวงจรปิดให้ดียิ่งขึ้นตลอดเวลา รวมไปถึงการรองรับมาตรฐาน IP ที่สามารถป้องกันน้ำกันฝุ่นของเครื่องวงจรปิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสมทุกการใช้งาน

จะเห็นได้ว่ามาตรฐาน IP นั้นถือเป็นอีกหนึ่งมาตรฐานที่กล้องวงจรปิดควรมี โดยเฉพาะกล้องวงจรปิดที่จำเป็นต้องใช้งานภายนอกและต้องอยู่ในหลายๆสภาวะอากาศ จึงทำให้ความสามารถในการป้องกันฝุ่นและน้ำเหล่านี้จึงเป็นสิ่งที่เราไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว สำหรับท่านใดที่กำลังมองหาผู้ให้บริการกล้องวงจรปิดคุณภาพ ที่มีกล้องวงจรปิดที่ได้รับมาตรฐาน IP ไว้ให้บริการ การเลือกใช้บริการจาก TP-Link ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสม เพราะเราเป็นผู้นำในด้านระบบเครือข่ายและอุปกรณ์เสริมที่เชื่อถือได้ในระดับโลก ได้รับการจัดอันดับจาก IDC ว่าเป็นผู้ให้บริการอุปกรณ์ Wi-Fi อันดับ 1 เป็นระยะเวลายาวนานถึง 12 ปี มั่นใจในทุกการบริการเพราะเรามีทีมงานมืออาชีพผู้เชี่ยวชาญด้านกล้องวงจรปิดโดยเฉพาะ สามารถให้บริการแนะนำในเรื่องการใช้งานให้กับผู้ที่สนใจ ให้ได้รับกล้องวงจรปิดที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุดได้อย่างตรงจุด

ระบบรักษาความปลอดภัยในปัจจุบันได้พัฒนาก้าวหน้าไปอย่างมาก โดยไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การใช้กล้องวงจรปิดเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการผสมผสานเทคโนโลยีที่หลากหลาย เช่น ระบบควบคุมการเข้าออก ระบบแจ้งเตือนการบุกรุก และระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวอัจฉริยะ ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถเชื่อมต่อและทำงานร่วมกันผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทำให้เจ้าของกิจการหรือผู้ดูแลอาคารสามารถตรวจสอบและควบคุมความปลอดภัยได้แบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม การพัฒนาของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ภาพและเหตุการณ์ต่างๆ ทำให้ระบบรักษาความปลอดภัยสามารถคาดการณ์และป้องกันเหตุร้ายได้ก่อนที่จะเกิดขึ้น นอกจากนี้ ระบบรักษาความปลอดภัยสมัยใหม่ยังถูกออกแบบให้ใช้งานง่าย สามารถปรับแต่งให้เข้ากับความต้องการเฉพาะของแต่ละองค์กร และมีความยืดหยุ่นในการขยายระบบเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต

TP-Link นำเสนอระบบรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพสูงผ่านกล้องวงจรปิด CCTV ที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของมาตรฐาน IP ในการป้องกันฝุ่นและน้ำ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับกล้องที่ต้องติดตั้งภายนอกอาคารและเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย กล้องวงจรปิดของ TP-Link ไม่เพียงแต่มีความละเอียดคมชัดสูง แต่ยังได้รับการออกแบบให้ทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่างๆ ด้วยมาตรฐาน IP ที่เหมาะสม ด้วยประสบการณ์กว่า 27 ปีในฐานะผู้นำด้านระบบเครือข่ายและอุปกรณ์เสริมระดับโลก TP-Link มุ่งมั่นที่จะนำเสนอโซลูชันการรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ โดยมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำเพื่อให้ลูกค้าได้รับระบบรักษาความปลอดภัยที่ตอบโจทย์การใช้งานอย่างแท้จริง


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลระบบรักษาความปลอดภัยด้วยการติดตั้งกล้องวงจรปิด เพิ่มเติม
และติดตามข้อมูลข่าวสารจาก TP-LINK ได้ที่  

www.tp-link.com
Line : @tplink หรือ คลิกที่นี่
Facebook: facebook.com/tplinkth
YouTube: www.youtube.com/@TPLINK-TH

 

Charoen W

บทความที่แนะนำ